การบริหารโรงแรมในยุคเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่น

Post นี้ผมอยากเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับแนวโน้มการบริหารโรงแรมที่หลายๆ แห่งเริ่มที่จะเปลี่ยนผ่านจากรุ่นคุณพ่อคุณแม่สู่รุ่นลูกๆ หลายๆ ครั้งที่ CEMS HALLS เราเข้าไปรับบริหารงานโรงแรมต่างๆ โดยส่วนใหญ่เราจะได้พูดคุยกับฝั่งของเจ้าของที่เป็นคนรุ่นลูกๆ ที่อยู่ในช่วง Gen X, Gen Y, ซึ่งโดยธรรมชาติคนรุ่นนี้จะเติบโตขึ้นมากับความทันสมัยและหลักคิดที่อิงไปในทาง Digital การเชื่อในหลักการทำงานแบบ Work Smart มากกว่าการ Work Hard เพราะเชื่อว่า "การทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำและเอาเป็นเอาตายแบบเมื่อก่อนไม่ใช่หนทางแห่งการประสบความสำเร็จเสมอไป" และด้วยตัวช่วยในการตอกย้ำความคิดนี้ในปัจจุบันอย่างเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่มีเข้ามามากมายอย่างไม่ขาดสายแม้ในธุรกิจบริการที่ได้ชื่อว่า "การใช้มนุษย์ด้วยกันในการบริการจะให้ความรู้สึกดีมากกว่า" ก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Gen รุ่นลูกๆ เหล่านี้จึงมีแนวความคิดในการหาเทคโนโลยีและเครื่องมือที่จะมาช่วยรองรับการทำงานและช่วยให้พวกเค้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะเล็งเห็นกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกที่จะเป็นไปแล้วว่าจะเป็นไปในทิศทางไหนจึงพยายามจะพาธุรกิจโรงแรมของตนเองให้หมุนไปตามกระแสโลก ย้อนกลับมาที่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ที่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง Baby Boomer ซึ่งคนรุ่นนี้จะยึดติดกับการต้องทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อที่จะได้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ แนวความคิดของพวกเค้าจะแตกต่างจากรุ่นลูกๆ เนื่องจาก "ไม่มีความเชื่อถือในเทคโนโลยีและนวัตกรรม" ว่าจะทำให้ธุรกิจสำเร็จและเติบโตต่อไปได้ เพราะเขาได้พิสูจน์ความสำเร็จของตนเองมาแล้วว่า "ต้องทำงานหนักเท่านั้นจึงจะสำเร็จได้"

แต่สิ่งที่คนรุ่นนี้มีมากกว่ารุ่นลูกๆ คือ "ไหวพริบทางธุรกิจและการตัดสินใจ" ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการสั่งสมที่ทำให้พวกเค้าเหล่านี้มีมากกว่ารุ่นลูกๆ ซึ่งทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้ตลอด จนหลายๆ ครั้งกลายเป็นดาบสองคมเพราะมันอาจพัฒนาเป็น "อีโก้" ที่เชื่อมั่นในวิธีของตนเองมากเกินไป หลายครั้งที่เราไปรับบริหารแล้วพบเจอปัญหาว่าการที่เราคุยกับคนรุ่นลูกที่อยู่ในช่วง Gen X, Gen Y, ที่เข้าใจระบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันทั้งการทำตลาด การให้บริการ การใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ มาพัฒนาและผลักดันตลอดจนสร้างระบบขึ้นมาจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้มากกว่าแต่เมื่อหลายๆ คนนำแนวความคิดและแผนกงานการพัฒนาไปนำเสนอต่อคนรุ่นคุณพ่อคุณแม่กลับได้รับการปฏิเสธจนสุดท้ายเกิดความไม่ลงรอยกันและอาจมีปัญหาการขัดแย้งกันและหนักเข้าถึงขั้นทะเลาะกันภายในครอบครัวซึ่งหลายๆ ครั้งแม้เราจะคุยแผนงานกันเรียบร้อยแล้วมันก็กลับต้องหยุดชะงักหรือยกเลิกไปด้วยสาเหตุจากความต่างระหว่างรุ่นเหล่านี้ เนื่องจากฝ่ายหนึ่งมีความเชื่อและประสบการณ์อีกอย่างหนึ่งซึ่งได้รับการพิสูจน์และรับรองในยุคของตนเองมาแล้ว่า "มันเป็นหนทางในการสร้างความสำเร็จให้ธุรกิจของตนเองได้" แต่ในขณะเดียวกันอีกฝ่ายหนึ่งต้องการปรับธุรกิจให้สอดคล้องไปกับกระแสโลกซึ่งเป็นการคิดอีกอย่างหนึ่งเพราะเล็งเห็นว่า "ถ้ายังบริหารโรงแรมแบบนี้ต่อไป ธุรกิจจะไปไม่ทันกับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากจนอาจทำให้เกิดความเสียหายได้" สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการจัดการ

ปัญหานี้ไม่ใช่การพยายามหาเหตุผลหรือข้อโต้แย้งใดๆ มาเอาชนะกันเพราะแนวคิดทั้งสองอย่างของคนสองรุ่นล้วนเป็นแนวคิดที่มีข้อดีอยู่ในนั้นเสมอหลายๆ ครั้งคนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องยอมรับในเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะมาพัฒนาธุรกิจและในขณะเดียวกันคนรุ่นลูกๆ ก็ต้องฟังและยอมรับในคำแนะนำของอีกฝ่ายด้วยเช่นกันหากหาจุดที่ลงตัวของทั้งสองฝ่ายได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นโรงแรมก็จะเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงและทันต่อกระแสโลกอย่างแน่นอน Natthapat Kamolpollapat Founder & CEO www.cemshalls.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอน City Ledger เช็คให้ดีก่อนปล่อยแขก

ตอน ถ้าไม่ปิด City Ledger จะเป็นยังไง?